บ้านนาออก ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่จำนวน 5.8 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศของหมู่บ้าน ทิศตะวันออก  จดแนวลำคลองส่งน้ำชลประทาน ติดต่อกับหมู่ที่ 6,9 

ตำบลปกาสัย

จดแนวเขตเทศบาลเหนือคลอง หมู่ที่ 2 ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

จดแนวเขตบ้านไร่ใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

จดแนวเขตบ้านเขาแก้ว หมู่ที่ 7 ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

ทิศเหนือ        

จดแนวเขตบ้านท่านุ่น  หมู่ที่ 4  ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

 ทิศใต้           

จดแนวเขตบ้านคลองขนาน หมู่ที่ 5 ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

ลักษณะพื้นที่             

เป็นเนินควนมีถนนเพชรเกษมตัดผ่านซึ่งมีต้นไทรใหญ่อยู่ริมถนนคนสมัยก่อนเลยเรียกขานกันอีกชื่อหนึ่งคือควนไทร ส่วนชื่อหมู่บ้านมาจากลักษณะของพื้นที่ด้านทิศตะวันออกจะเป็นที่ราบลุ่มชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยได้ไปจับจองพื้นที่เพื่อบุกเบิกพื้นที่ทำนาปลูกข้าวซึ่งมีคลองชลประทานใหลผ่านมีน้ำตลอดปี เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านนาประ(ทิศ)ออก หรือนาออก ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ 

ประวัติมัสยิด เดิมทีประชาชนที่มาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่ ได้ไปทำการละหมาด หรือประกอบศาสนกิจที่มัสยิดบ้านไร่ใหญ่  ต่อมาเมื่อชุมชนใหญ่ขึ้นมีประชากรมากขึ้นและมีความลำบากในการเดินทางไปประกอบศาสนกิจที่มัสยิดบ้านไร่ใหญ่จึงได้ปรึกษาหารือกันในการจัดตั้งมัสยิดซึ่งขณะนั้นมีครัวเรือนอยู่อาศัยประมาณ 50 ครัวเรือน และได้ทำการก่อสร้างมัสยิดหลังแรกบนที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวาของนายเทศ  เชาว์ช่าง ได้วากัฟ(อุทิศ)ที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ก่อสร้างมัสยิด มัสยิดบ้านนาออกได้ทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2495 ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ทะเบียนเลขที่ 66 บ้านนาออก หมู่ที่ 6 ตำบลเหนือคลอง อำเภอเมืองกระบี่ (เนื่องจากขณะนั้นตำบลเหนือคลองยังเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเมืองกระบี่) จังหวัดกระบี่ โดยนายหวัง  กูลหลัก อีหม่ามเป็นผู้ยื่นจดทะเบียนเมื่อทางราชการได้ทำการเดินสำรวจที่ดิน นายหวัง  กูลหลัก อีหม่ามในขณะนั้นเป็นผู้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินออกให้เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2518 ในนามนายหวัง  กูลหลัก ต่อมาเมื่อนายหวัง  กูลหลัก ได้เสียชีวิตลงนางปุ๋น เชื้อสง่า ในฐานะทายาทยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก และได้ทำการโอนที่ดินดังกล่าวให้กับมัสยิดบ้านนาออก

                              โดยนายวินัย  ยะลา อีหม่ามเป็นผู้รับมอบในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2550